“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบที่ 5 ในศึกเอฟเอ คัพ หลังเฉือนเอาชนะชรูว์สบิวรีทาว์น 1-0 ในนัดรีเพลย์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ว่านีล คริตชลีย์จะใช้นักเตะอายุน้อยลงสนามก็ตาม
และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจที่เกล็น ไพรซ์ ผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์สโมสร Liverpool fc สรุปจากเกมดังกล่าว
ค่ำคืนแห่งความทรงจำ
เกมนี้ถือเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์อีกเกมที่ลิเวอร์พูลใช้นักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรลงสนามทั้ง 11 ตัวจริง ด้วยวัยเพียง 19 ปี 109 วัน แต่ทีมหงส์หนุ่มก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจไม่แพ้ทีมชุดใหญ่ ในเกมนี้ทีมของคริตชลีย์ครองบอลได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ณ จุดหนึ่งของครึ่งแรก ก่อนจบเกมที่ตัวเลข 58 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทีมเยือนเริ่มครองบอลมากขึ้นหลังเสียประตูในนาทีที่ 75
ในเกมนี้ลิเวอร์พูลมีโอกาสทำประตูถึง 12 ครั้ง เป็นการยิงเข้ากรอบ 4 ครั้ง และได้เตะมุม 14 ครั้งตลอดทั้งเกม
คริตชลีย์ กล่าวหลังจบเกมว่า “ผมคิดว่าตลอด 90 นาทีเรามีโอกาสมากกว่า และสมควรเป็นผู้ชนะในเกมค่ำคืนนี้”
กัปตันที่อายุน้อยที่สุด
คำว่าพิเศษใส่ไข่ยังไม่เพียงพอสำหรับกัปตันเคอร์ติส ดาวรุ่งเลือดสเก๊าเซอร์ ที่ทำลายสถิติเป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดในรอบ 120 ปี ด้วยวัย 19 ปี
เคอร์ติส โจนส์ กล่าวหลังจบเกมว่า “พิเศษ? ว้าว ผมคิดว่ามันเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป! มันคือความฝันที่กลายเป็นจริง”
เนโก้ วิลเลียมส์ และเพื่อน กับผลงานอันโดดเด่นในแผงหลัง
วิลเลียมส์ เป็นดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ เขาแสดงความสามารถในการเล่นเกมรับ และรุกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการโหม่งสกัดลูกขว้างไกลของผู้รักษาประตูด้วย และยังมีส่วนทำให้ทีมคว้าชัยชนะจากการพยายามเปิดบอลไกลให้กับฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการโหม่งเข้าประตูชัยในเกมนี้
เรียกได้ว่าเขามีสัญชาตญาณในการทำเกมรุกที่โดดเด่น นอกจากนี้เขายังประสานงานร่วมกับเซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, คี-จานา ฮูเฟอร์ และอดัม ลูอิส แข้งรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้โอกาสประเดิมสนามแรกในเกมนี้ แถมยังช่วยกันเก็บคลีนชีตได้อีกด้วย เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะมองข้ามได้
บทบาทของมิลเนอร์
แม้จะไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้ แต่กัปตันทีมลิเวอร์พูลก็พยายามถ่ายทอดประสบการณ์อันมีค่าให้เด็ก ๆ จากการเปิดเผยหลังเกมของคริสตช์ลีย์
เสียงปรบมือจากบนอัฒจันทร์
หลังจากเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น คริตชลีย์ ผู้จัดการทีมชุดเยาวชนร่วมฉลองชัยชนะกับเด็ก ๆ ท่ามกลางเสียงปรมมือสนับสนุนจากแฟนบอลในแอนฟิลด์ที่เข้ามานั่งเต็มสนาม ตั๋วเข้าชมขายเกลี้ยงก่อนที่เหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” จะเข้ามาส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม
“มันเหมือนกับการปลดปล่อยอารมณ์” คริตชลีย์กล่าวในการแถลงข่าวของเขา “พูดตรง ๆ มันน่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ดังนั้นผมคิดว่า ‘ทำไมไม่ลุยเลยล่ะ?”
“และผมคิดว่านักเตะทำได้ และคุณจะเห็นได้จากในดวงตาของกองเชียร์ มีทั้งอารมณ์ร่วม และสายสัมพันธ์ที่อยู่ข้างในนั้น”
